Top

จากตำนานขนมไหว้พระจันทร์สู่ของกำนัลมีดีไซน์

จากตำนานขนมไหว้พระจันทร์สู่ของกำนัลมีดีไซน์


    หนึ่งในเทศกาลเก่าแก่ของวัฒนธรรมจีนที่คนไทยและคนทั่วโลกรู้จักกันดี และต่างก็ชื่นชอบในรสชาติอันแสนอร่อยของขนมประจำเทศกาลนั้นก็คือ ‘เทศกาลไหว้พระจันทร์’ ซึ่งมีตำนานเล่าขานทั้งแบบโรแมนติก และแนวดุเดือดด้วยเลือดรักชาติ ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน สิ่งที่คนรู้ก็มีแค่ขนมไหว้พระจันทร์รสเลิศที่นับวันร้านต่าง ๆ พากันแข่งขันทำดีไซน์หน้าตา และพัฒนามาใช้วัตถุดิบชั้นดี จนกลายเป็นหนึ่งในของกำนัลกินได้ที่หรูหรา ภูมิใจทั้งผู้ให้และถูกใจผู้รับ

    ช่วงของเทศกาลไหว้พระจันทร์คือ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจีน เป็นช่วงกลางฤดูใบไม้ร่วงของประเทศจีน ถือกันว่าเป็นวันที่พระจันทร์สวยงามที่สุด เป็นนิมิตหมายอันดีถึงความสมัครสมานกลมเกลียว ความรักใคร่สามัคคีกันภายในครอบครัวและหมู่คณะ ซึ่งในปีนี้จะตรงกับวันที่ 4 ตุลาคม 2560 ผู้ที่ยึดมั่นในประเพณีดั้งเดิมก็จะมีการตั้งโต๊ะไหว้เจ้า มีการมอบขนมเป็นของกำนัลให้บุคคลที่เคารพรักใคร่ และแบ่งขนมกันกินในหมู่เครือญาติ

    แม้ต้นกำเนิดของเทศกาลนี้จะไม่ชัดเจน แต่ก็มีเรื่องเล่าขานอยู่สองแง่ โดยในแง่ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้านการปกครองของจีน เล่ากันมาว่า เป็นขนมที่กบถชาวจีนซึ่งตกอยู่ภายใต้การยึดครองของชาวมองโกลกว่า 80 ปี ทำขึ้นเพื่อสื่อสารและซุกซ่อนความลับในการก่อกบถเพื่อกู้ชาติ ข้อความปลุกระดมนัดหมาย  “15 ค่ำ เดือน 8 สังหารมองโกล” ชักชวนให้คนรักชาติลุกขึ้นมาต่อสู้กับผู้รุกราน ถูกส่งไปในขนมไหว้พระจันทร์ ส่งผลให้เกิดการชุมนุมครั้งใหญ่ในคืนวันเพ็ญเดือน 8 เพื่อร่วมกันปราบทหารมองโกลจนราบคาบ วันไหว้พระจันทร์จึงเป็นหนึ่งในวันสำคัญของวัฒนธรรมชาวจีนมาจนปัจจุบัน

    ส่วนตำนานโรแมนติกนั้นเป็นนิทานปรัมปรา ที่เล่าถึงความรักที่จบลงด้วยการพลัดพรากของเทพธิดาฉางเอ๋อ กับวีรบุรุษนักแม่นธนูนามว่าโฮ่วอี้ เหตุผลในการพลัดพรากของคนรักคู่นี้มีเรื่องเล่าแตกต่างกันหลายกระแส แต่มีบทสรุปตรงกันคือ ฉางเอ๋อผู้เป็นภรรยาเลือกที่จะเสียสละตนเองเพื่อสามี แต่การเสียสละนั้นทำให้นางและโฮ่วอี้ต้องจากกันชั่วชีวิต โดยร่างของฉางเอ๋อล่องลอยไปสู่ดวงจันทร์และมีชีวิตเป็นอมตะในฐานะเทพองค์หนึ่งอยู่บนนั้น ส่วนโฮ่วอี้ผู้สูญเสียภรรยาและผู้คนทั้งหลายจะได้เห็นเงาของฉางเอ๋อบนดวงจันทร์แค่ในคืนพระจันทร์วันเพ็ญเดือน 8 การทำพิธีกราบไหว้ดวงจันทร์ในค่ำคืน 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปีจึงมีความหมายมากกว่าการแสดงความเคารพต่อเทพธิดาฉางเอ๋อบนดวงจันทร์ แต่เป็นสัญลักษณ์ถึงการได้กลับมาพบเจออยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

    เทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นเรื่องของการสร้างสิริมงคลในชีวิต และขนมไหว้พระจันทร์ก็เป็นขนมที่มีความหมายเป็นสิริมงคล การมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้แก่ผู้ที่เคารพรัก ญาติสนิทมิตรสหาย จึงเป็นการแสดงออกถึงความปรารถนาดี และในปัจจุบันนี้ ทั้งรูปร่างหน้าตา บรรจุภัณฑ์ และรสชาติของขนมไหว้พระจันทร์ก็ได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนดูหรูหรา และสวยงามมาก โดยเฉพาะของโรงแรมห้าดาวต่าง ๆ เราจึงคัดสรรขนมไหว้พระจันทร์ที่มีดีไซน์โดดเด่นสุด ๆของปีนี้มาให้ชมกัน
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมอนันตราสยาม กรุงเทพฯ
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมอนันตราสยาม กรุงเทพฯ
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมพลาซาแอทธินี กรุงเทพฯ
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมพลาซาแอทธินี กรุงเทพฯ
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพฯ
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมเรเนสซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมเรเนสซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
 

ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ
ขนมไหว้พระจันทร์ ของ โรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

    ถ้าใครอยากชิมหรือซื้อให้เป็นของกำนัลแก่ผู้ที่เคารพรัก ก็สามารถไปตามหาได้ตามรายละเอียดของแต่ละเจ้าได้เลย แม้ราคาจะสูงกว่าท้องตลาด แต่ด้วยรูปโฉมและรสชาติที่ยอดเยี่ยม น่าจะทำให้ผู้รับชื่นใจไม่น้อย

------------------------------------------
ชมข้อมูลบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ คอนโดมิเนียม เพิ่มเติมได้ที่ 
Website : www.realasset.co.th
Facebook : www.facebook.com/RealAssetDevelopment
Instagram : www.instagram.com/realasset.development/
LINE@ : @realasset
Call Center : 1232

ข่าวและกิจกรรม